วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558

ตำรวจ ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน


สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจ หรือ ที่เรียกว่า “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” นั้น บางคนอาจจะมองว่าอาชีพตำรวจนั้นเป็นอาชีพที่ได้ใส่เครื่องแบบ เทห์ สมาร์ท ได้จับโจรผู้กระทำความผิด หรือบางคนอาจจะมองว่าเป็นอาชีพหนึ่ง ซึ่งเป็นข้าราชการ มีความมั่นคงสูง นั่นเป็นเพียงมุมมองด้านหนึ่ง ซึ่งไม่รอบด้าน ต้องอาศัยรุ่นพี่คอยให้คำแนะนำ เพราะการจะก้าวเข้ามาสู่การเป็น 
“ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” นั้นจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง ลำดับแรก ต้องมีใจรักในความเป็นตำรวจ ตำรวจต้องพบปะกับประชาชน ตำรวจต้องจับกุมผู้กระทำความผิด เช่นความผิดตามกฎหมายจราจร อาจจะทำให้ประชาชนไม่พอใจ ก่นด่าตำรวจ 
เป็นจำนวนมาก อย่างนี้ ถ้าไม่มีใจรักแล้ว อยู่ยาก แต่ก่อนจะมาเป็นตำรวจได้นั้น น้อง ๆ จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในความเป็นตำรวจก่อน ซึ่งผมจะได้อธิบายต่อไป


ตัวอย่างนี้เป็นข้าราชการตำรวจหญิงสังกัดกองปราบปราม


ความหมายของตำรวจ  ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 “ข้าราชการตํารวจหมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้โดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนในสํานักงานตํารวจแห่งชาติและให้หมายความรวมถึงข้าราชการในสํานักงานตํารวจแห่งชาติซึ่งสํานักงานตํารวจแห่งชาติแต่งตั้งหรือสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการตํารวจโดยได้รับเงินเดือนจากส่วนราชการรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐด้วย

อำนาจหน้าที่ของตำรวจ พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ มาตรา บัญญัติไว้ว่า
สํานักงานตํารวจแห่งชาติเป็นส่วนราชการมีฐานะเป็นนิติบุคคลอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรีและมีอํานาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) รักษาความปลอดภัยสําหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินีพระรัชทายาท ผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์พระบรมวงศานุวงศ์ผู์แทนพระองค์และพระราชอาคันตุกะ
(2) ดูแลควบคุมและกํากับการปฏิบัติงานของข้าราชการตํารวจซึ่งปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
(3) ป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดทางอาญา
(4) รักษาความสงบเรียบร้อยความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของราชอาณาจักร
(5) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกําหนดให้เป็นอํานาจหน้าที่ของข้าราชการตํารวจหรือสํานักงานตํารวจแห้งชาติ
(6) ช่วยเหลือการพัฒนาประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
(7) ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้การปฏิบัติการตามอํานาจ
หน้าที่ตาม (1) (2) (3) (4) หรือ (5) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


หน้าที่หลักคือให้บริการประชาชน

ใช้เทคโนโลยีในการจับกุมผู้กระทำความผิด



เมื่อเห็นดั่งนี้แล้วก็ย่อมเข้าใจแล้วว่า ตำรวจเป็นข้าราชการหน่วยงานหนึ่งซึ่งมีอำนาจตาม ข้อที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ แต่ก่อนจะเข้ามาเป็นตำรวจ น้อง ๆ ต้องทราบว่า ตำรวจไทยนั้น มีจำนวนมากกว่า แสนนาย ซึ่งแบ่งออกเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน และข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร มีการกำหนดยศ กำหนดตำแหน่งไว้

ข้าราชการตำรวจชั้นประทวน จะมียศตั้งแต่ พลตำรวจ (ปัจจุบันไม่มีแล้ว) สิบตำรวจตรี สิบตำรวจโท สิบตำรวจเอก จ่าสิบตำรวจ และดาบตำรวจ


ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร จะมียศตั้งแต่ ร้อยตำรวจตรี ร้อยตำรวจโท ร้อยตำรวจเอก พันตำรวจตรี พันตำรวจโท พันตำรวจเอก พลตำรวจตรี พลตำรวจโท พลตำรวจเอก




สำหรับน้อง ๆ หรือผู้ปกครอง ที่สนใจจะให้บุตรหลานท่านเข้ารับราชการตำรวจ ปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเปิดรับบุคคลภายนอกเข้าไปข้าราชการตำรวจ ทางหลัก ๆ คือ

1. เข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ กลุ่มนี้จะเปิดรับสมัครพร้อม ๆ กลุ่มทหารเหล่าต่าง ๆ คือทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ จะรับบุคคลชายอายุตั้งแต่ 14 – 17 ปี วุฒิการศึกษา ม.ยอดรับแต่ละปี ประมาณ 200 คน เข้าศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร เป็นระยะเวลา ปี และเข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อีก ปี สำเร็จการศึกษา ประดับยศ ว่าที่ร้อยตำรวจตรี เข้ารับราชการในสังกัดต่าง ๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อไป



2. เป็นเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ กลุ่มนี้จะเปิดรับจำนวนมาก โดยจะเปิดรับสมัครประมาณเดือน ก.ค.-ส.ค. โดยจะแบ่งออกเป็น สายงานหลัก ๆ คือ งานป้องกันปราบปราม และงานอำนวยการและสนับสนุน


คุณสมบัติ สายงานป้องกันปราบปราม
เพศชาย
วุฒิการศึกษา ม.หรือ ป.ว.ช.
อายุตั้งแต่ 18 – 27 ปีบริบูรณ์
ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 160 ซม.
ผ่านการเกณฑ์ทหาร หรือ จบ รด.ปี 3
คุณสมบัติ สายงานอำนวยการหรือสนับสนุน
เพศชาย หรือ เพศหญิง
วุฒิการศึกษา ม.6 ป.ว.ช. หรือเทียบเท่า
อายุตั้งแต่ 18 – 35 ปีบริบูรณ์
เพศชาจต้องผ่านการเกณฑ์ทหาร หรือ จบ รด.ปี 3
สำหรับการทดสอบ จะแบ่งออกเป็น ภาค คือ
ภาคความรู้ความสามารถ จะสอบในวิชา ดังต่อไปนี้
-     ความสามารถทั่วไป
-    ภาษาไทย
-    ภาษาต่างประเทศ ภาษาอังกฤษ
-    งานเทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น
-    จริยธรรมและกฎหมายที่ประชาชนควรรู้
ภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง
ทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย แบ่งเป็น
 - วิ่ง ระยะทาง 1000 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน นาที 5วินาที ถือว่าผ่าน
 - ว่ายน้ำ ระยะทาง 25 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน 3วินาที ถือว่าผ่าน
 - สอบสัมภาษณ์ จะเป็นกำรประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ ที่จะแต่งตั้งจำกพฤติกรรมที่ปรากฏ ซึ่งก็จะมีแค่ ผ่าน กับ ไม่ผ่าน ส่วนมากคณะกรรมการจะไม่ให้ตกสัมภาษณ์ ยกเว้นแต่จะแบบว่าพูดจาไม่รู้เรื่อง หรืออย่างไรก็ตาม แต่ที่ผ่านมา มีไม่กี่รายที่ตกสัมภาษณ์
การตรวจร่างกายจากคณะกรรมการแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ที่ไม่เป็นโรคหรืออาการตำมที่กำหนดไว้ ถือว่า ผ่าน

   
                                                ตัวอย่างประกาศรับสมัคร ประจำปี พ.ศ.2555

อันนี้เป็นรายละเอียดอย่างคร่าว ๆ น้อง ๆ ต้องทำศึกษา ทำความเข้าใจในหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งมีมากมาย ซึ่งบางครั้งน้อง ๆ ต้องปฏิบัติตัวเอง ไม่ให้ผิดหลักเกณฑ์ เช่น ห้ามสักผิวหนัก ห้ามเจาะหู เป็นต้น น้อง ๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.policeadmission.com
เมื่อน้อง ๆ ผ่านการคัดเลือก โดยวิธีการสอบคัดเลือก น้อง ๆ ที่สอบคัดเลือกเข้ามาในสายงานป้องกันปราบปราม ต้องเข้ารับการฝึกอบรม ณ ศูนย์ฝึกอบรมตามภาคต่าง ๆ ที่น้องสมัครเข้ามา เป็นระยะเวลา ปี ระหว่างฝึกอบรมจะได้รับเงินเดือน ๆ ละ 1,360 บาท และเมื่ออบรมเสร็จเข้ารับการบรรจุแต่งตั้ง ยศสิบตำรวจตรี ณ หน่วยงานที่น้อง ๆ เลือกตามคะแนนการสอบวัดผลระหว่างการฝึกอบรม อัตราเงินเดือน 6,970 บาท มีเงินเพิ่มสำหรับสายงานป้องกันปราบปราม 3000 บาท และค่าครองชีพ สำหรับผู้มีเงินเดือนไม่เกิน 12280 บาท จำนวน 1500 ต่อเดือน รวม ๆ แล้วก็ถือว่าอยู่ในอย่างสมศักดิ์ศรี กับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ประวัติส่วนตัว
-  ชื่อ อนุชา หมื่อสนิท
-  ชื่อเล่น ชื่ออั๋น
-  อายุ 14 ปี เกิดวันที่ 29/01/2544
-  กรุ๊ปเลือด O 
-  ชอบกินไก่ 
-  สีฟ้า
-  Facebook:Aun Anucha


วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
  จากการที่คอมพิวเตอร์มีลักษณะเด่นหลายประการ ทำให้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตประจำวันในสังคมเป็นอย่างมาก ที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดก็คือ การใช้ในการพิมพ์เอกสารต่างๆ เช่น พิมพ์จดหมาย รายงาน เอกสารต่างๆ ซึ่งเรียกว่างานประมวลผลคำ ( word processing ) นอกจากนี้ยังมีการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในด้านต่างๆ อีกหลายด้าน ดังต่อไปนี้
   
   
  ด้านงานธุรกิจ
  ด้านธุรกิจ เช่น บริษัท ร้านค้า ตลอดจนโรงงานต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการทำบัญชี งานประมวลคำ และติดต่อกับหน่วยงานภายนอกผ่านระบบโทรคมนาคม งานอุตสาหกรรมใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการควบคุมการผลิต และการประกอบชิ้นส่วนของอุปกรณ์ต่างๆ  หรืองานธนาคาร ที่ให้บริการถอนเงินผ่านตู้ฝากถอนเงินอัตโนมัติ ( ATM ) และใช้คอมพิวเตอร์คิดดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงิน และการโอนเงินระหว่างบัญชี เชื่อมโยงกันเป็นระบบเครือข่าย
  ด้านการแพทย์
  ปัจจุบันมีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยงานด้านการแพทย์หลายด้าน เช่น การเก็บประวัติคนไข้ การใช้ทดลองประกอบการวินิจฉัยของแพทย์  ใช้ในการตรวจเลือด  ตรวจปัสสาวะ  การผ่าตัดหัวใจ  การตรวจสอบห้องพักผู้ป่วยว่าว่างหรือไม่  การควบคุมแสงเลเซอร์การเอ็กซ์เรย์  การตรวจคลื่นสมอง  คลื่นหัวใจ  เป็นต้น
  ด้านวิทยาศาสตร์และเคมี
  ใช้ในการวิเคราะห์สูตรทางเคมี  การคำนวณสูตรทางวิทยาศาสตร์  การค้นคว้าทดลองในห้องวิทยาศาสตร์  การคำนวณเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาลและการเกิดปรากฏการณ์เกี่ยวกับดวงดาวต่างๆ
  ด้านการสื่อสารและคมนาคม
  ใช้ในการติดต่อสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต  สื่อสารถ่ายทอดผ่านดาวเทียม  การติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์  ในส่วนที่เกี่ยวกับการเดินทาง จะใช้คอมพิวเตอร์ในการจองวันเวลา ที่นั่ง ซึ่งมีการเชื่อมโยงไปยังทุกสถานีหรือทุกสายการบินได้  ทำให้สะดวกต่อผู้เดินทาง  อีกทั้งยังใช้ในการควบคุมระบบการจราจร เช่น ไฟสัญญาณจราจร  และการจราจรทางอากาศ
  ด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม
  สถาปนิกและวิศวกรสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการออกแบบ หรือ จำลองสภาวการณ์ต่างๆ เช่น การรับแรงสั่นสะเทือนของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว  รวมทั้งการใช้ควบคุมและติดตามความก้าวหน้าของโครงการต่างๆ เช่น คนงาน เครื่องมือ ผลการทำงาน
  ด้านงานราชการ
  เป็นหน่วยงานที่มีการใช้คอมพิวเตอร์มากที่สุด โดยมีการใช้หลายรูปแบบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบทบาทและหน้าที่ของหน่วยงานนั้นๆ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ มีการใช้ระบบประชุมทางไกลผ่านคอมพิวเตอร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ได้จัดระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อเชื่อมโยงไปยังสถาบันต่างๆ  กรมสรรพากร ใช้จัดในการจัดเก็บภาษี บันทึกการเสียภาษี เป็นต้น
  ด้านการศึกษา
  ใช้เพื่องานด้านการเรียนการสอนในหลายรูปแบบ ได้แก่ การผลิตสื่อการสอน การใช้ซีดีรอมสำหรับการเรียนรู้  เกมเพื่อการศึกษาหรือคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  บทเรียนออนไลน์
  ด้านความบันเทิง
  เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อความสนุกสนาน ความบันเทิง เช่น เล่นเกม  ฟังเพลง  ชมภาพยนตร์
  ด้านศิลปะและการออกแบบ
  เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการวาดรูปการ์ตูนออกแบบงาน และการสร้างภาพกราฟิกหรือการตกแต่งภาพในคอมพิวเตอร์

   
โทษของคอมพิวเตอร์
 นอกจากประโยชน์อย่างมากของคอมพิวเตอร์แล้ว  ถ้าไม่ระมัดระวังในการใช้งานคอมพิวเตอร์ก็เกิดโทษขึ้นได้ เช่น
  โทษต่อร่างกาย
  การใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานนอกจากทำให้ปวดเมื่อยตามร่างกายแล้ว  มีผลเสียต่อสุขภาพทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น
  โรคอ้วน การนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ เช่น การเล่นเกมทำให้ขาดการออกกำลังกายเป็นสาเหตุให้เกิดโรคอ้วนได้
  โรคนิ้วล็อก การใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน โดยใช้ข้อมือหรือนิ้วมือในท่าเดิม ทำให้เกิดพังผืดบริเวณช่องเส้นเอ็นที่ข้อมือและนิ้วมือ ทำให้นิ้วล็อก กางนิ้วออกไม่ได้ เกิดที่ข้อมือ ทำให้เจ็บปวดมาก
  โรคเกี่ยวกับตา โรคตาแห้งทำให้แสบตา ระคายเคือง  มีอาการกระตุกบริเวณกล้ามเนื้อตา  ปวดหัว และอาจอักเสบจนเป็นต้อลมได้  ควรพักสายตาโดยมองขึ้นเบื้องสูงทุก ๆ 10 นาที หรือ เปลี่ยนอิริยาบถทุก ๆ ชั่วโมง
  โรคอื่นๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคลำไส้อักเสบ โรคกระเพาะ ปัสสาวะอักเสบ
  เสียความสัมพันธ์กับครอบครัว
  เนื่องจากติดเกม ห่วงแต่เล่นเกม  ขาดการพูดคุยกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง  ทำให้ขาดความอบอุ่น เอาแต่ใจตนเอง
  ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย
   การใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร  ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเห็นตัว  ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดลง 
  เกิดปัญหาสังคม
  เช่น การล่อลวงเพื่อทำการมิดีมิร้าย  ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับวัยของนักเรียน เพราะเป็นวัยที่ไว้ใจคนง่าย  จึงเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ดี
  เกิดการเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่ดี 
  เพราะสื่อที่เห็นทางอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม เช่น การแสดงออกกับเพศตรงข้ามอย่างไม่เหมาะสม  เป็นต้น
  ทำให้เกิดการเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ
  ธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดของธุรกิจฝากไว้ในศูนย์ข้อมูล เช่น ข้อมูลลูกหนี้การค้า ข้อมูลสินค้าและบริการต่างๆ หากเกิดการสูญหายของข้อมูล ย่อมทำให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง
  ทำให้เกิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายข่าวสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว
  เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ตมีผู้สร้างโฮมเพจหรือสร้างข้อมูลข่าวสารในเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสม
  ทำให้ข้อมูลหรือโปรแกรมถูกทำลายได้ง่าย
  เช่น  อาจจะถูกทำลายด้วยไวรัสซึ่ง สามารถแพร่ไปยังระบบคอมพิวเตอร์อื่นๆ ได้โดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
cr:http://www.kruaew.com/p5.html